ปศุสัตว์จังหวัดพะเยา แจงจากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่ากระบือที่ตาย คาดเกิดจากอาการระบบทางเดินหายใจ ซึ่งคาดว่าจะเป็นโรคคอบวมหรือการได้รับสารพิษ โดยจากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าในจุดเลี้ยงดังกล่าวนั้นได้มีการฉีดวัคซีนโรคปากเท้าเปื่อยเรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดการฉีดวัคซีนโรคคอบวม ซึ่งจะเข้าทำการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงของการตายของกระบือดังกล่าวต่อไป

 

 

 

 

 

 

โดยในขณะนี้การดำเนินการควบคุมโรคและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคดังกล่าวทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยาได้มีการสั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองพะเยาและสำนักงานปศุสัตว์อำเภอดอกคำใต้ เร่งมาตรการดำเนินการควบคุมโรคโดย 1 แยกสัตว์ที่แสดงอาการป่วยออกจากฝูงเพื่อทำการรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ 2 ผ่าชันสูตรซากกระบือที่ตายและเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในเพื่อนำส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ 3 พ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่เกิดเหตุและฟาร์มโคกระบือในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดเหตุ 4 เร่งดำเนินการค้นหาสัตว์ป่วยเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยงใกล้เคียง 5 เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบวมให้แก่โค กระบือทุกตัวในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบจุดเกิดเหตุซึ่งมีจำนวนไปประชากรโคกระบือรวมทั้งหมดประมาณ 300 ตัวขณะที่ล่าสุดยังไม่พบกระบือตายเพิ่ม ในส่วนของการตรวจชิ้นเนื้อคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจประมาณ 5-10 วัน สำหรับในส่วนของกระบือที่ตายทางปศุสัตว์ได้มีการแนะนำไม่ให้นำไปรับประทาน โดยได้มีการทำลายซากโดยการฝังทั้งหมด