เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ยุคสมัยเปลี่ยน "สาวใหญ่" ยอมทิ้งธุรกิจ 23 ปี หันทำขนม ส่งขายออนไลน์ สร้างรายได้ให้ครอบครัว


27 ต.ค. 2562, 10:58



ยุคสมัยเปลี่ยน "สาวใหญ่" ยอมทิ้งธุรกิจ 23 ปี หันทำขนม ส่งขายออนไลน์ สร้างรายได้ให้ครอบครัว




วันที่ 27 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการเปิดเผยจาก นางพิมวรรณ  จิตรคำ อายุ   48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/18 หมู่ 7 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เจ้าของร้านไก่บ้านขนม ว่าก่อนหน้าที่จะผันตัวเองมาทำขนมอย่างจริงจังนั้น ตนเองเคยเปิดร้าน ขาย และให้เช่าวีดีโอ ชื่อว่าร้านไก่วีดีโอ ทำมาประมาณ 23 ปี แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เฟซบุ๊ค ไลน์ สื่อออนไลน์ต่างๆเข้ามามากขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านวีดีโอเริ่มถดถอย ลูกค้าเริ่มหายไปเรื่อยๆเลยคิกว่าการนั่งอยู่เฉยๆไม่ได้มีผลดี เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ เลยคิดที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะเห็นแล้วว่าจะต้องหยุดกิจการร้านวีดีโอลงอย่างแน่นอน จึงตัดสินที่ที่จะเรียนการทำขนม เพราะเป็นสิ่งที่ตนเองชอบมาตั้งแต่เด็กๆ เรียนโดยที่ไม่มีพื้นฐานการทำขนมด้วยซ้ำ

 

แต่โชคดีที่เจอครูดี ครูที่สอนคือครูเจี๊ยบ บ้านขนมสวยหวานโดยเริ่มทำขนมชั้น ตะโก้ เปียกปูน แต่ปัญหาคือขนมไทยทำแล้วไม่สามารถเก็บไว้ได้ ทำขายวันต่อวันเท่านั้น  ขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง เลยคิดที่จะเรียนการทำขนมที่สามารถเก็บไว้ขาย และส่งขายออนไลน์ ได้จึงหันมาเรียนการทำขนมเพราะสามีชอบทานขนมอาลัว และเมื่อเริ่มทำและโพสต์ลงเฟซบุ๊คก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้า และมีการบอกต่อกันจนทำให้ปัจจุบันนี้มีลูกค้าจากต่างจังหวัดที่สั่งอาลัวกันมาอย่างต่อเนื่อง

 

นางพิมวรรณ เล่าให้ฟังว่าการทำขนมอาลัว ไม่ได้ยากและไม่ได้มีส่วนผสมมากมาย แต่การทำขนมจะต้องใจเย็น และใช้เวลาอยู่กับมัน โดยส่วนผสม จะมีแป้งสาลีชนิดพิเศษ น้ำตาลทรายขาว กะทิกลิ่นควันเทียน โดยขั้นตอนแรก จะนำน้ำกะทิกลิ่นควันเทียนกับน้ำตาลผสมรวมกันแล้วนำไปตั้งไฟอ่อนๆเพื่อให้น้ำตาลละลายประมาณ 2-3 นาที ไม่ให้เดือด แล้วหลังจากนั้นก็ยกขึ้นมาพักให้เย็นแล้วจึงเอาแป้งที่เตรียมไว้ผสมลงไปและคนจนแป้งกับกะทิน้ำเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำไปกรอง หลังจากนั้นก็นำไปตั้งไฟอ่อนๆคนตลอดเวลาเพราะแป้งจะสุกเร็วมากและอาจจะไหม้ได้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที กวนจนไม่มีของเหลวติดกระทะ ที่สำคัญกระทะจะต้องเป็นกระทะเทปล่อน เพราะจะทำให้แป้งไม่ติดกระทะ  เมื่อกวนแป้งจนแป้งเริ่มไม่ติดกระทะ ให้ปิดไฟ และในระหว่างที่ปิดไฟแล้ว ความร้อนที่อยู่ที่กะทิก็ยังมี ให้กวนแป้งต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่มแห้งแล้วแป้งเมื่อตักขึ้นมาจะมีลักษณะเป็นริ้วๆ เมื่อได้แป้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ยกขึ้นมาแล้วตักแบ่งเป็นส่วนๆเพื่อผสมกับสีที่เราต้องการ

 

ซึ่งอาลัวของ ร้านไก่บ้านขนม สีจะมีความอ่อนดูแล้วน่ารับประทาน  และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เมื่อผสมสีเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนของการบีบอาลัว ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะ อาลัวของบ้านไก่ขนมจะเป็นอาลัวที่ชิ้นเล็กจิ๋ว จึงต้องใช้ความใจเย็นและประณีตพอสมควร เมื่อบีบครบทุกสี ต่อไปก็นำเข้าตู้อบลมร้อนเพื่อให้ขนมแห้งและแข็งตัว ซึ่งในการอบขนมแต่ละครั้งต้องใช้เวลาประมาณ 16-18 ชั้วโมง ขึ้นอยู่กับชิ้นของขนม เล็กใหญ่ก็ใช้เวลาที่แตกต่างกันออกไป ในการอบช่วงแรก ประมาณ 8-10 ชั่วโมงก็จะต้องนำเอาออกมาเพื่อเอากระดาษที่รองขนมออก และกลับขนม เพื่อให้ความร้อนได้โดนขนมอย่างทั่วถึง และอบต่อไปจนขนมเริ่มจับตัวแข็ง ในการสังเกตว่าขนมอาลัวอบจนได้ที่หรือยัง ให้หยิบขนมมาแล้วบีบดูว่าขนมแตกหรือยัง ถ้าขนมแตกแล้วมีความแข็งนอกนุ่มในแสดงว่าขนมอาลัวสำเร็จลุล่วงเรียบร้อย

 

นางทิพวรรณ เล่าให้ฟังว่า การทำอาลัยในแต่ละครั้งที่อบ จะได้อาลัวที่แห้งแล้วพร้อมส่งขาย ประมาณ 3 กิโลกว่าๆเท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการอบค่อนข้างนาน  อย่างที่บอกว่าการทำขนมต้องใช้ความใจเย็นและมีใจรัก ใช้เวลาเป็นคืนเป็นวันกว่าจะได้อาลัวจิ๋วที่สีสันชวนน่ารับประทาน  โดยขายในราคากิโลกรัมละ 400 ร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งจะใส่แพคเกจหลายรูปแบบหลายราคาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ

 

หากใครสนใจที่จะลองชิมอาลัวของ ไก่บ้านขนมที่ มีความน่ารักทั้งขนาดความจิ๋วของอาลัว และสีสันที่ชวนน่ารับประทาน ลองติดต่อไปที่เฟซบุ๊ค ที่ชื่อว่า “ไก่ วีดีโอ พิมวรรณ(ไก่บ้านขนม)” หรือที่เบอร์ติดต่อ 080-0387001 อาลัวที่กรอบนอกนุ่มใน หวานที่พอดิบพอดี ที่สำคัญใครเคยกินอาลัวที่แข็งแล้วทำให้รู้สึกไม่ชอบกินอาลัว  อยากให้ลองชิมอาลัวของไก่บ้านขนมแล้วคุณจะหลงรักอาลัวขึ้นมาทันที

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.