กรณีนางจีระพร เชียงที อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 211 ถนนประชาร่วมมิตร ชุมชนบ้านน้อยใต้ เขตเทศบาลเมืองนครพนม ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง ทะเบียน 1 กข 5120 นครพนม  จากบ้านพักเพื่อไปซื้อของที่ตลาดสด โดยใช้เส้นทางถนนบำรุงเมือง เมื่อวิ่งมาใกล้ถึงสี่แยกไฟแดงถนนนิตโย บริเวณด้านหลังที่ขึ้นลงสินค้าร้านวัสดุก่อสร้าง เจอเชือกไนล่อนสีเขียวห้อยอยู่กลางถนน ไม่สามารถหักหลบทัน จึงพุ่งเข้าหาทำให้ถูกเชือกเกี่ยวบริเวณใบหน้าหงายท้องตกลงจากรถ จยย. ศีรษะฟาดพื้นมีแผลแตก และไถลครูดไปกับถนนสลบคาที่ ก่อนจะมีรถกู้ชีพ 1669 นำร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดส่งโรงพยาบาลนครพนม โดยแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องไอซียู เพื่อสังเกตอาการ เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 12.30 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว 

คืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลนครพนม ตึกอายุรกรรมหญิง ชั้น 4 พบนางจีระพรคนเจ็บที่ถูกนำออกมาจากห้องไอซียูแล้ว มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ ใบหน้าด้านซ้ายเขียวช้ำ ข้อศอกและขาถลอก และมีอาการเจ็บหลัง โดยมีนายรณชัย คงชุ่ม อายุ 45 ปี สามีคอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาเยี่ยมสอบถามอาการหลายคน

นางจีระพร เปิดเผยว่า สามีประกอบอาชีพขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง ส่วนตนเป็นแม่บ้านทำความสะอาดแบบเช้าไปเย็นกลับ ก่อนเกิดเหตุจะไปซื้อของที่ตลาดมาให้นายจ้าง ก็ขับมาเรื่อยๆจนผ่านสามแยกถนนโพธิ์ศรีผ่านที่ทำการ บขส.จังหวัดนครพนม ใกล้จะถึงสี่แยกไฟแดงประมาณ 100 เมตร เห็นวัตถุสีเขียวห้อยต่องแต่งอยู่กลางถนน แต่หักหลบไม่ทันจึงถูกบ่วงเชือกตวัดใบหน้าหงายตกจากเบาะรถ จยย. หัวกระแทกพื้นและไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งมาฟื้นที่โรงพยาบาล มีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระย้า โดยยืนยันว่าตนขับรถไม่เร็วแต่มองไม่เห็นเชือกที่ห้อย

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปตรวจบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง ทราบว่าเชือกที่ห้อยนั้นเป็นเชือกที่ขึงป้ายผ้าเชิญชวนเที่ยวงานตรุษจีน ไทย เวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม นี้ หลังเกิดเหตุได้ถูกรื้อออกไปเก็บ เหลือเพียงร่องรอยเชือกที่ตัดห้อยอยู่ข้างเสาไฟฟ้าหน้าร้านขายของชำ

ส่วนสาเหตุที่เชือกห้อยย้อยอยู่กลางถนน ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม  เป็นเชือกที่ขึงอยู่ระหว่างเสาไฟฟ้า 2 ต้น โดยมีรถทัวร์ 99 สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน  15-2803 กรุงเทพฯ เลขข้างรถ ม.4 ข 1081  มี นายคณิศร  รอดเนียม เป็นคนขับ  วิ่งเข้ามาถนนเส้นดังกล่าวเพื่อจะมาตอกบัตรที่สำนักงาน บขส.(คิวรถ 99 เดิม) แต่รถลอดป้ายผ้าไม่ได้  นายประสิทธิ์ ชาวชายโขง  เด็กรถได้ลงจากรถเพื่อปลดเชือกเส้นล่างให้รถลอดผ่านไปได้ แต่ไม่ยอมกลับมาเก็บเชือกมัดไว้ที่เดิม ปล่อยห้อยยางแทบติดพื้นถนน กระทั่งนางจีระพรขับ จยย.ผ่านมา จึงประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

หลังทราบข้อเท็จจริงจึงแจ้งให้พนักงานรถทัวร์คันนี้ เข้าให้ปากคำที่ สภ.เมืองนครพนม ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นเผยว่าน่าจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของรถทัวร์ หากเก็บเชือกเข้าที่เดิมก็ไม่เกิดเหตุเช่นนี้

นอกจากนี้ นางจีระพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเกิดเหตุสิ่งที่คิดถึงมากที่สุดคือลูกสาวคนเล็ก อายุ 10 ขวบ ที่ป่วยด้วยโรคทางสมอง ทุกๆสองเดือนจะต้องพาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลจังหวัดขอนแก่น แต่รับยาทานที่โรงพยาบาลนครพนม โดยใช้บัตรสิทธิ์ผู้พิการ หากวันไหนลูกลืมกินหรือขาดยาจะมีอาการชักเสมอ อยากให้ผู้ที่กระทำมารับผิดชอบ