เมื่อวันที่ 25 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายวาด ปารานิน รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 18 ซึ่ง พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาและเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมสุรินทร์ มูลนิธิศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ สภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ และมูลนิธิยุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น โดยตัวแทนของ 21 ชาติ ได้มอบโล่รางวัลบุคคลแห่งสันติภาพโลกแด่ ผวจ.ศรีสะเกษ มีการมอบของที่ระลึกและประกาศนียบัตรแด่ศิลปินนานาชาติและท้องถิ่น โดยมี นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ นางชไมมาศ ชาติเมธากุล ที่ปรึกษามูลนิธิหลวงปู่สรวง นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวไทย ร่วมให้การต้อนรับ และชมการแสดงในครั้งนี้

นายวัฒนา พุฒชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้มิติแห่งวิถีชุมชนทางศิลปวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ในแต่ละประเทศมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยมีศิลปินพื้นบ้านนานาชาติจาก 21 ประเทศมาร่วมกันแสดงศิลปวัฒนธรรมชาติของตนเองให้ประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวจังหวัดใกล้เคียงได้ชม ซึ่งเป็นการแสดงที่สวยงามและยิ่งใหญ่ตระการตาเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกชาติที่มาแสดงในครั้งนี้ต่างนำเอาวัฒนธรรมที่ดีเด่นที่สุดของชาติตนเองมาแสดงให้ชม

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดงานนี้นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากในรอบหลาย 10 ปี ที่มีการเชิญนานาชาติกว่า 21 ประเทศมาแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของแต่ละประเทศให้ประชาชนชาวศรีสะเกษได้ชมกัน เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่มากและหาชมได้ยาก เพราะว่าเราไม่ต้องเดินทางไปชมถึงประเทศต่าง ๆ แต่ว่าทุกชาติที่มาในครั้งนี้นำเอาสุดยอดของวัฒนธรรมพื้นบ้านมาแสดงให้ชม นับว่าการจัดงานนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นอย่างดียิ่ง อีกทั้งเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ประชาชนชาวศรีสะเกษได้มีโอกาสชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมนานาชาติในครั้งนี้