เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"กาญจนบุรี" จัดงานวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2563


3 ก.พ. 2563, 13:28



"กาญจนบุรี" จัดงานวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2563




วันนี้ (3 ก.พ. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่อนุสาวรีย์แห่งความกล้าหาญและเสียสละของทหารไทยในสมรภูมิเวียดนาม ได้มีการจัดงานวันทหารผ่านศึก โดยในช่วงแรกพลตรี วสุ เจียมสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และจุดเครื่องทองน้อยหน้าภาชนะบรรจุอัฐิ เพื่อประกอบพิธีสงฆ์ ซึ่งพระสงฆ์จำนวน 10 รูป ได้สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับทหารผ่านศึกที่ล่วงลับไป และเป็นการเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับผู้เข้าร่วมพิธี จากนั้น ประธานในพิธีได้ทอดผ้าไตรบังสุกุล พระสงฆ์สวดอนุโมทนา ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และกรวดน้ำรับพรเป็นอันเสร็จพิธีสงฆ์ เป็นทางหน่วยงานทหาร ส่วนราชการ องค์กร รัฐวิสาหกิจ สมาคม ชมรม และบุคคลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และอ่างทอง ขึ้นวางพวงมาลาเบื้องหน้าอนุสาวรีย์

จากนั้น ประธานในพิธีได้ขึ้นแท่นรับการเคารพ และ นางสาว ประไพ ในสมานมิตร์ รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสุพรรณบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ซึ่งมี รองผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 9 รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนหน่วยงาน อดีตผู้บังคับบัญชา และบรรดาเหล่าทหารผ่านศึก ร่วมงานในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานได้ยืนไว้อาลัยให้กับทหารผ่านศึกที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าเป็นเวลา 1 นาที

ต่อมาวงดุริยางค์นำหน่วยทหารกล้าออกเดินสวนสนาม เพื่อสดุดีทหารผ่านศึก และประธานได้มอบเกียรติบัตรแก่ทหารผ่านศึกดีเด่น ประจำปี 2562 พร้อมอ่านคำปราศรัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกสภาทหารผ่านศึกเนื่องด้วยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกได้กำหนดจัดงานวันทหารผ่านศึกภายใต้ชื่องาน เชิดชูเกียรติทหารกล้า 3 กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก เพื่อสดุดีวีรกรรมให้แก่ผู้ที่เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อ ซึ่งปกป้องประเทศชาติมาแล้ว และจัดพิธีเชิดชูเกียรติให้แก่ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ที่ปฏิบัติหน้าที่  ป้องกันประเทศ

สำหรับในการจัดงาน ประกอบด้วยพิธีทางศาสนา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารผ่านศึกที่ล่วงลับ พิธีวางพวงมาลา เพื่อแสดงความเคารพ และเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก โดยได้จัดพิธีสวนสนามสดุดีทหารผ่านศึก พร้อมทั้งพิธีประกาศเกียรติคุณทหารผ่านศึก ที่ได้ประกอบอาชีพจนประสบความสำเร็จในชีวิต โดยสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจังหวัดสุพรรณบุรี มีหน้าที่ให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จำนวน 3 จังหวัดประกอบด้วย จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และอ่างทอง

สำหรับประวัติของวันทหารผ่านศึก หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลังสงครามมหาเอเซียบูรพาสิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยจากการเป็นทหาร จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือดังนั้น ในปี พ.ศ.2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่ กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบแต่ก็ยังเป็นหน่วยงานที่ไม่เป็นทางการ

ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 จึงได้ยึดเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก โดยมี พลโท ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช เป็นผู้อำนวยการคนแรก ในปี พ.ศ.2510 องค์การทหารผ่านศึกได้ปรับเปลี่ยนฐานะมาเป็นองค์การเพื่อการกุศลของรัฐ และเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหมและเงินที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นครั้งคราว ภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ได้แก่ การให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฏิบัติการรบ และครอบครัวของทหารที่ปฏิบัติการรบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ

1. การสงเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ เป็นการให้การสงเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป ที่อยู่อาศัย การศึกษา ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอวัยวะเทียม
2. การสงเคราะห์ทางด้านอาชีพ โดยการฝึกอบรมและการฝึกอาชีพ ให้ความช่วยเหลือในทางด้านการทำงาน จัดหางานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3. การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรม จัดสรรที่ทำกินในด้านเกษตรกรรมให้ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเครื่องมือและวิชาการ
4. การสงเคาระห์ด้านกองทุน โดยการจัดหาเงินทุนให้สมาชิกขององค์การทหารผ่านศึกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ
5. การสงเคราะห์ด้านการรักษาพยาบาลให้แก่สมาชิก โดยไม่คิดมูลค่า
6. ให้มีการส่งเสริมสิทธิของทหารผ่านศึก โดยการขอสิทธิพิเศษในด้านต่างๆ ให้แก่ทหารผ่านศึก เช่น การขอลดค่าโดยสาร เป็นต้น

ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารผู้เสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ ดอกป๊อปปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อปปี้ คือ เลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด ดังนั้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อปปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร

สำหรับประเทศไทยแล้ว การจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของ ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศจึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิศมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ

สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆ มาแล้ว โดยมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติ ปรากฏเป็นอนุสรณ์อยู่ วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่ว ปรากฏ ต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้น เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา นับเป็นโอกาสอันดีที่เราท่านทั้งหลายจะได้แสดงความระลึกถึง และช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว ด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ผู้กล้าหาญ และเสียสละ ตลอดจนเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของเหล่าทหารหาญที่ทำให้เราอยู่กันอย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินไทย และมีอธิปไตยมีชาติ บ้านเมือง ให้ได้อยู่อาศัย ตราบชั่วลูกชั่วหลานจวบจนปัจจุบัน

 

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.