คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทย ใกล้เคียงกับประเทศเยอรมนี หากไทยยังไม่มีมาตรการสกัดโรคโควิด-19 หรือไม่สามารถคุมการออกจากบ้านได้ภายในวันที่ 15 เมษายนนี้ อาจทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 350,000 คน และเสียชีวิตกว่า 7,000 คน

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ผ่านช่อง IPTV Mahidol University ว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโควิด-19 ค่อนข้างนิ่ง แต่มาเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด หลังจากพบผู้ป่วยติดเชื้อจากสถานบันเทิงและสนามมวย

ขณะที่ทั่วโลกแบ่งประเทศการระบาดโควิด-19 เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่คุมไม่อยู่คือ ประเทศโซนยุโรป เช่น อิตาลี เยอรมนี กับกลุ่มที่คุมอยู่คือ ประเทศแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์

แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีกราฟคล้ายกับประเทศเยอรมนี หากไทยยังไม่มีมาตรการที่เด็ดขาดกว่านี้ คาดว่าไทยจะเหมือนกลุ่มประเทศที่คุมไม่อยู่ แต่ละวันจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 33

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ย้ำว่า หากไทยเริ่มต้นช้า และปล่อยให้ยืดเยื้อ คือยังมีพฤติกรรมยังออกจากบ้าน เข้าสังคม พูดคุยกัน ไปทำงาน หรือทำแบบเดิม ๆ จนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ คาดว่าอัตราการเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 33 จะทำให้ไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 สูงถึงประมาณ 350,000 คน หรือต้องรักษาตัวโรงพยาบาลประมาณ 50,000 คน อยู่ห้องไอซียู 17,000 คน เสียชีวิตกว่า 7,000 คน

แต่หากสามารถป้องกันได้ทัน จะลดอัตราป่วยลงมาได้ถึงร้อยละ 20 หรือมีผู้ป่วยประมาณ 24,000 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล 3,600 คน รักษาตัวที่ห้องไอซียู 1,200 คน และเสียชีวิต 485 คน