เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"แอดมินไลน์กลุ่มโควิด-19" จ.กาญจนบุรี มอบเงินสดพร้อมชุดป้องกันเชื้อไวรัส ให้ 2 รพ.จากการบริจาคของสมาชิก มูลค่ากว่า 3 แสนบาท


3 เม.ย. 2563, 13:37



"แอดมินไลน์กลุ่มโควิด-19" จ.กาญจนบุรี มอบเงินสดพร้อมชุดป้องกันเชื้อไวรัส ให้ 2 รพ.จากการบริจาคของสมาชิก มูลค่ากว่า 3 แสนบาท




วันที่ 3 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายประจักษ์ บ่อเกิด ผู้ช่วยสรรพากรพื้นที่กาญจนบุรี ในฐานะแอดมินไลน์กลุ่ม COVID-19 กาญจนบุรี พร้อมด้วยสมาชิก ประกอบด้วยนายนิพัฒน์ เจริญกิจการ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี นางแสงอร่าม ภัคพยัต ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าพบนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมอบชุดป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 รวมทั้งชุดป้องกันเบื้องต้นห้องฉุกเฉิน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และนอกจากนี้ยังมอบเงินสดอีกจำนวน 100,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลมะการักษ์ โดยมีนายแพทย์สมเจตน์  เหล่าลือเกียรติ ผอ.รพ.พหลฯ นายแพทย์อิทธิพล จรัสโอฬาร ผอ.รพ.มะการักษ์ และคณะผู้บริหารจากโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง เข้าร่วมรับมอบ

ทั้งนี้ นายประจักษ์ บ่อเกิด เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนได้เล็งเห็นความสำคัญของบุคคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะบุคคลากรทางการแพทย์คือส่วนหน้าที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด และทราบว่าบุคคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันตัว

ดังนั้น เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจว่าเชิญชวนสมาชิกไลน์กลุ่ม “COVID-19 กาญจนบุรี”ที่มีสมาชิกอยู่จำนวน 350 คน ร่วมบริจาคชุดป้องกันการติดเชื้อให้กับโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ตามที่แต่ละท่านสะดวก และปิดบัญชีรับบริจาคเมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 ผลปรากฎว่าแค่วันเดียวได้รับการบริจาคจากสมาชิกมากถึง 287,800 บาท

ในขณะเดียวกันท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ได้สมทบให้อีก จำนวน 100,000 บาท เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลมะการักษ์ ในการนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ที่มีความเป็นต่อบุคคลากรทางการแพทย์อีกด้วย

สุดท้ายนี้ อยากจะฝากไปถึงประชาชนว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และคำแนะนำจากรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เช่นการเว้นระยะห่าง รวมทั้งงดเว้นการชุมนุมเพื่อสังสรรค์กันออกไปก่อน

 

 



ด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า การที่ไลน์กลุ่มโควิด-19 นำเงินและชุดป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิส-19 มามอบให้บุคลากรทางการแพทย์ในครั้งนี้ มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาช่วยเหลือกันในหลายๆด้าน ซึ่งไลน์กลุ่มโควิส-19 กาญจนบุรี ได้มีการตั้งขึ้นมาเพื่อปรึกษาหารือรวมทั้งพูดคุยแนะนำเกี่ยวกับปัญหาไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ จึงถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สังคมต้องการ

จากการที่ได้มีการพูดคุยกับ ผอ.และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งก็ทราบว่าโรงพยาบาลยังขาดแคลนอุปกรณ์อีกหลายอย่าง ทางราชการโดยกระทรวงมหาดไทย จะให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับระงับยับยั้งภัยพิบัติกรณีเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเรามีเงินทดรองราชการ จำนวน 50 ล้านบาทเพื่อนำไปใช้ในเรื่องนี้

ซึ่งได้เรียน ผอ.โรงพยาบาลไปว่า หากมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการระงับยับยั้งเชื้อโควิด-19 ขอให้ทางโรงพยาบาลทำบัญชีในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นส่งมาให้กับทางจังหวัด จากนั้นทางจังหวัดก็จะพิจารณาในการให้ความช่วยเหลือเงื่องงบประมาณต่อไป 

 

 


นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการโรงแรม ยื่นความประสงค์มาที่จังหวัดว่ายินดีที่จะให้ใช้สถานที่ในการกักตัวประชาชนกลุ่มเสี่ยงเป็นเวลา 14 วันตามกำหนดแล้ว 3 แห่ง ซึ่งตอนนี้เราขอเฝ้าดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องไปก่อน เมื่อถึงเวลาเราอาจจำเป็นจะต้องใช้ ซึ่งการที่มีผู้เสนอให้ใช้สถานที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก

ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์อาชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น คนกาญจนบุรีมีความตื่นตัวอยู่แล้ว มาตรการที่ออกมาห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลาสี่ทุ่มถึงตีสี่ ถือว่าเป็นการตอกย้ำในเรื่องของมาตรการได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องแนะนำประชาชนแต่อย่างใด แต่ขอให้ประชาชนทำตามคำสั่งดังกล่าวเท่านั้นก็พอ

สำหรับยอดผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 5 ราย จากทั้งหมด 8 ราย ซึ่ง 3 รายคณะแพทย์ได้จำหน่ายให้กลับบ้านได้แล้ว แต่ในส่วนของผู้ต้องเฝ้าระวังนั้นมีค่อนข้างมาก และในส่วนของกลุ่มบุคคลที่กลับมาจาก กทม.รวมทั้งปริมณฑล ที่ต้องกักตัวและอยู่ในความดูแลของสาธารณสุข ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 6-7,000 คน หากการกักตัวผ่านพ้นไป 2-3 อาทิตย์ไม่พบเชื้อก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ระหว่างนี้ยังมีการเฝ้าระวังอยู่

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.