วันที่ 4 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่าจากกรณีหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ตำรวจภูธรสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เข้าตรวจสอบถังแก๊สปิกนิก 27 ใบ ในปอเนาะแห่งหนึ่ง (ดารุลฟรุกอน) หมู่ที่ 3 บ้านดารู ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย เมื่อช่วงเย็นวานนี้

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ถังแก๊สทั้งหมดอยู่สภาพเก่าใช้การไม่ได้ นายอับดุลอาซิ แวลาแม อุสตาส ประจำปอเนาะ อ้างว่า ถึงแก๊สทั้งหมดอยู่ระหว่างประสานกับ ร้านค้า และเจ้าของแบรนด์ เพื่อนำกลับไปแปรสภาพ ไม่มีเจตนานำเก็บไว้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ทั้งนี้ระหว่างตรวจค้นได้เชิญนายอับดุลเลาะ สาและ กำนันตำบลธารคีรี มาเป็นพยานในการตรวจยึด

เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ยัน การปฏิบัติครั้งนี้ ได้รับเบาะแสจากชาวบ้าน ผ่านสายด่วนแม่ทัพภาคที่ 061-173-2999 ก่อนสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ครอบครอง แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิงลึก หากพบเจตนาที่ครอบครองโดยไม่สุจริต สามารถใช้ พรก ฉุกเฉิน ดำเนินคดีตามกฏหมายได้ในภายหลัง

ที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เคยประกาศ และขอความร่วมมือ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอสงขลา ให้นำถังแก๊สเหล็กมาแลกเปลี่ยนเป็นถังแก๊สคอมโพสิต เพื่อป้องกันแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ นำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่รัฐขณะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หรือช่วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับพันตำรวจเอกกองทัพ เสนาทิพย์ ผู้กำภับการสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย เบื้องต้น เชื่อว่า ถึงแก๊สที่ตรวจยึดไม่น่าจะเกี่ยวขัองกับขบวนการ่กอเหตุปวนใต้ในพื้นที่

สำหรับเหตุระเบิดครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดที่บริเวณศาลาทวด ใกล้สวนสาธารณะ และโรงเรียนอนุบาลสะบ้าย้อย ครั้งนั้นมีปลัด อาสารักษาดินแดน นักเรียนเจ็บ 10 คน โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ที่ชาวบ้านแจ้งหายนำมาประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง