หัวหน้าเพาะชำกล้าไม้ ลั่น หาเก็บเห็ด-ของป่า ต้องขออนุญาตเสียก่อน ยันไม่ยอมความ
9 ก.ค. 2563, 17:39
จากกรณีที่ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูก นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งความจับกุมดำเนินคดี เนื่องจากว่าทั้ง 3 คน ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่เขต ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวonb newsรายงานว่า ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ แก้วคำ พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณี หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 3 คน ที่ลักลอบเข้ามาหาเห็ดในพื้นที่ของสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยาน หลักฐาน ดำเนินการในขั้นตอนของชั้นสอบสวน โดยได้มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อประกอบสำนวนคดี โดยมี นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย
นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่ชาวบ้านบางรายเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต ถือวิสาสะเข้ามาโดยพลการและไม่เคารพสถานที่ ไม่เคารพบุคลากร ไม่ให้เกียรติเจ้าหน้าที่ ตนรับราชการอยู่ที่นี่มา 12 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนอนุญาตให้เข้ามาหาของป่าแล้วหลายร้อยคน เจอชาวบ้านบุกรุกเข้ามาตลอดทุกปี แต่ชาวบ้านรายนี้ดูแล้วจะเกินไปหน่อย ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการเข้ามาลักทรัพย์ซึ่งเป็นเห็ดขมยูคาลิปตัส ถ้าไม่มีทรัพย์ตนก็จะบอกให้เขากลับไป และถ้าจะเข้ามาหาของป่าหรือเห็ดในพื้นที่จะต้องเขียนคำขอต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ามาหาของป่า พร้อมทั้งยื่นบัตรประชาชนไว้กับเจ้าหน้าที่ จะได้รู้ตัวตนว่าเป็นใครมาจากไหน ในส่วนของเรื่องทางคดีความนั้น กรณีดังกล่าว เป็นความผิดซึ่งหน้า ตนได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร ในชั้นของตนนี้ถือเป็นความผิดซึ่งหน้า ก็เลยจำเป็นต้องให้จับกุมดำเนินคดี และตนไม่ได้ไปไล่จับชาวบ้าน เขาเดินเข้ามาให้ตนจับเอง แล้วมีหลักฐานเป็นเห็ดในตะกร้าซึ่งตนได้ถ่ายคลิปไว้ด้วยว่าเขาผิดจริง
ทางด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถาม นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แล้ว ทราบว่าไม่มีทรัพย์สินของทางราชการ เสียหายหรือสูญหายแต่อย่างใด ซึ่งจะได้เร่งเชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อสรุปข้อเท็จจริงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 85/3 หมู่ 7 บ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี และนางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 7 ตำบลเดียวกัน ส่วนนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ไปทำภารกิจส่วนตัวที่ตัว จ.ศรีสะเกษ พบว่า ชาวบ้านกำลังพากันจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี นายธนกฤต อินธิเดช ผู้ใหญ่บ้านบัวระรมย์ มารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย และมีนายกฤษนัย นัยนิตย์ ทนายความชื่อดังของ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เข้ามาให้คำแนะนำเพื่อให้การช่วยเหลือด้านคดีความแก่ชาวบ้านโดยไม่คิดเงินค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งนางปราณี และนางบุญมี มีท่าทางเศร้าสร้อยที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเพียงแค่ไปหาเก็บเห็ดมาเป็นอาหารประทังชีวิตเท่านั้น
นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี กล่าวว่า เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนขอปฏิเสธว่า ไม่ได้บุกรุกเข้าไปแต่อย่างใด เนื่องจากว่า เป็นป่ายูคาลิปตัสและไม่มีรั้วกั้น จึงได้พากันเดินเข้าไปเพื่อหาเก็บเห็ดมาทำเป็นอาหารประทังชีวิต และยังไม่ได้เก็บเห็ดแต่อย่างใด ต้องมาโดนจับกุมเสียก่อน ซึ่งตนขอความเมตตาจากทุกภาคส่วนได้โปรดเข้ามาให้ความช่วยเหลือตนกับพวกในคดีนี้ด้วย
นายธนกฤต อินธิเดช ผู้ใหญ่บ้านบัวระรมย์ กล่าวว่า ปกติแล้ว ชาวบ้านกลุ่มนี้จะพากันไปหาเก็บเห็ดมาเป็นอาหาร เพราะว่า ช่วงนี้มีฝนตกทำให้มีเห็ดออกมาตามโคนต้นยูคาลิปตัส ชาวบ้านจะพากันเก็บเห็ดมากินเป็นอาหารไม่ได้เก็บเอาไปขาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนจะได้ประกาศเตือนชาวบ้านทุกคนไม่ให้เข้าไปหาเก็บเห็ดในบริเวณดังกล่าวอีกต่อไป