วันนี้ ( 24 ธ.ค.63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวสารทางสื่อ พบว่าปัจจุบันเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ภาคกลางเป็นบริเวณกว้างโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี ยังไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด

สำหรับอุทยานแห่งชาติไทรโยค มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่นำตกไทรโยคใหญ่ รวมทั้งน้ำตกไทรโยคน้อย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้นรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่เพื่อความไม่ประมาทอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ทั้งที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย ที่อยู่ริมถนนสาย 323 ต.ท่าเสา และน้ำตกไทรโยคใหญ่ที่อยู่ภายในเขตอุทยานฯ

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และจังหวัดกาญจนบุรี ในการทำให้แหล่งท่องเที่ยวเป็นที่ปลอดเชื้อ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

แต่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นไทยชนะหรือสมุดลงชื่อเพื่อเก็บประวัติ โดยระหว่างท่องเที่ยวจะต้องเว้นระยะห่างให้ปลอดภัยและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ส่วนชายแดนสังขละบุรี พลตำรวจตรี พงศ์พิชญ์ วงศ์สวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 พร้อมด้วยพันตำรวจเอก สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน และตรวจฐานปฏิบัติการช่องทางสามัคคี หมู่ที่ 6 บ้านพุหม่อง ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี

จากนั้นเดินทางไปยังด่านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ตรวจจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ ( จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ) บริเวณซอยเกษตร 1 ซึ่งวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการไทยและเมียนมา สามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าได้เป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะระงับการผ่านแดนของบุคคล สิ่งของ และยานพาหนะออกไปอย่างไม่มีกำหนด

โอกาสนี้ได้เดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังซอยพาณิชย์ 2 ซอยพาณิชย์ 4 และซอยพาณิชย์ 6 เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ประจำจุดคอยตรวจตราแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผลัดเวรกันตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งมอบสิ่งของบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานป้องกันการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดน ก่อนที่จะไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่จุดตรวจตระเวนชายแดน ซึ่งบริเวณนี้มีการตั้งด่านตรวจคัดกรองรถที่สัญจรไป-มาจากด่านพระเจดีย์สามองค์เข้าสู่ใจกลางประเทศ

ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ตรงไปตรงมาเพื่อชาติและเพื่อประชาชน โดยต้องสกัดกั้นโควิด-19 ให้ได้ 100 เปอร์เซนต์ และขอให้คนไทยมีวินัย รับผิดชอบต่อสังคม หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด เช่น กักตัวเพื่อเฝ้าระวัง หากทำเช่นนี้ได้เชื่อมันว่าจะสามารถจำกัดและความคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ได้ นอกจากนี้ไม่อยากให้สังคมโทษกันไป-มาว่าใครเป็นฝ่ายผิด แต่อยากให้ร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

ส่วนในวันพรุ่งนี้ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จะยังคงลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

สำหรับพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้ากอง กำลังสุรสีห์ ในการป้องกันตามแนวชายแดน ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีการเพิ่มกำลังพลทหารหน่วยทหารเฉพาะกิจป้องกันโควิด-19 จำนวน 1 กองร้อย มาตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ร่วมกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และอาสาสมัครประจำหมู่บ้านในพื้นที่ โดยเน้นเฝ้าระวังผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง