เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจน์ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด กำหนดมาตรการปฏิบัติ 9 ข้อ ฝ่าฝืนเจอทั้งคุก-ปรับ


4 ม.ค. 2564, 19:46



ผู้ว่าฯ กาญจน์ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด กำหนดมาตรการปฏิบัติ 9 ข้อ ฝ่าฝืนเจอทั้งคุก-ปรับ




วันนี้ 4 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ออกประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 9/2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVO - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

 

        ระบุว่า ตามที่ จังหวัดกาญจนบุรีมีประกาศจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD - 19) จังหวัดกาญจนบุรี นั้น

 

        โดยสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD - 19) ได้ขยายขอบเขตการแพรโรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด

 

        ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฏอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อน เพื่อเป็นการฝาระวัง ป้องกัน และควบคุ้มการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COD - 19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างเข้มขันและต่อเนื่อง ประกอบกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 1/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กำหนดให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

 

        จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอยกเลิกประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2564 ดังกล่าวข้างต้น และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัด

กาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่งกำหนดพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยให้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

 

        1. ห้ามการใช้อาคารและสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อจัดการเรียน การสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่กรณี ดังต่อไปนี้

 

        1.1 เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือวิธีอิเล็กทรอนิกส์ 1.2 เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล 1.3 เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการหรือกิจกรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี 1.4 เป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียน ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน หรือเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือให้เป็นไปตามมาตรการที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด

 

        2. ห้ามการจัดกิจกรรมที่ความเสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสก้นได้ง่าย เช่น การประขุม สัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่เกิน 200 คน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ แนบท้ายคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 2038/2563 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ข้อ 1 ฉ.

 

       

3. เงื่อนไขการเปิดดำเนินการ โดยให้สถานที่ กิจการ หรือการทำกิจกรรม ดังต่อไปนี้ เปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา และการจัดระบบและระเบียนต่างๆ ที่กำหนด ดังนี้

 

        3.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ในโรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

 

        3.2 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ แนบท้ายคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดกาญจนบุรี ที่  2038/2563  ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ข้อ 1 ข. ทั้งนี้ สำหรับเวลาเปิด ปิด ทำการ ให้ดำเนินการตามปกติ

 

        3.3 ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก/ค้าส่งชุมชน ตลาด ให้เปิดได้โดยต้องควบคุมทางเข้าออก จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ให้และผู้ใช้บริการ การเว้นระยะห่างในการเลือกสินค้าและการชำระราคา

 

        3.4 ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี ให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด 3.5 สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่างทางสังคมและไม่คลุกคลีกันอยู่แล้ว เช่น สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู และต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแข่งขัน ในกรณีของสโมสร คลับเฮาส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าวให้ปฏิบัติ ตามข้อ 3.1

 

        3.6 สวนสาธารณะ ลาน -พื้นที่กิกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่โล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่หรือปั่นจักยาน หรือการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น เป็นส่วนบุคคล โดยไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแช่งขัน การละเล่น การแสดง

 

        4. มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ให้เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะ และอุปกรณ์ที่ใช้ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด  เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดระบบอื่นๆ ให้เป็นไปตามคำแนะนำ เงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หรือทางราชการกำหนด เช่น การเข้าใช้บริการโดยนัดหรือแจ้งล่วงหน้า การไม่ให้ผู้ใช้บริการหลายคนรออยู่ในสถานที่เดียวกัน การจำกัดจำนวนใช้บริการในแต่ละคราว และการเข้าใช้บริการ ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจและให้คำแนะนำ หรืตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝันหรือเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้เสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อสั่งปิดสถานที่เฉพาะรายการ

 

        5. ให้งดการปฏิบัติศาสนกิจและศาสนาพิธีของทุกศาสนา ที่มีการรวมกลุ่มจำนวนตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ณ สถานที่ใด ๆ เว้นแต่กรณีจำเป็น ให้นายอำเภอพิจารณาอนุญาตเป็นกรณีไป

 

 

        6.การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่กรณีเหตุจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด กรณีประชาชนที่เดินทามาจากจังหวัดอื่นและพำนักพักค้างคืนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องรายงานตัวต่อเจ้านักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต) ในท้องที่ เพื่อรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติ

ตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางจากต่างพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันโรค (Home Quarantine)

 

        7.ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ยกเว้นการสัญจรเพื่อไปประกอบอาชีพตามปกติ   

 

8. ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณารูปแบบการปฏิบัติงาน ในช่วงระยะเวลานี้

ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือการสลับวันหรืการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงาน เพื่อลดจำนวน

ผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทางซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

 

        9. มาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้ปฏิบัติ ดังนี้

 

9.1 เร่งรัดการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคอย่างเต็มขีดความสามารถ

9.2 คันหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

9.3 ควบคุการเข้า-ออก ของยานพาหนะ และบุคคลคนไทย โดยมิให้กระทบต่อการค้าและการอุตสาหกรรมมากเกินความจำเป็น

 

9.4 งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากทุกรูปแบบ

9.5 ให้มีการ Work From Home อย่างเต็มขีดความสามารถ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรืผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

 

         ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึ่ง ประกาศหรือคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้  ให้ใช้คำสั่งนี้แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 



 

 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.