เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ผู้ว่าฯกาญจน์" ประกาศ! มาตรการเร่งด่วนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19


7 ม.ค. 2564, 07:55



"ผู้ว่าฯกาญจน์" ประกาศ! มาตรการเร่งด่วนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19




วันนี้ 6 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี  ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 50 / 2564 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยระบุว่า อนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 9/2563 ลงวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด นั้น     

โดยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้ขยายวงกว้างในหลายเขตพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฏอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อน เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และให้เกิดความต่อเนื่องในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 1/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กำหนดให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดกาญจนบุรีจึงยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 9/2563 ลงวันที่ 4 มกราคม 2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ดังต่อไปนี้

1. ห้ามการใช้อาคารและสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อจัดการเรียน การสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่กรณี ดังต่อไปนี้ 1.1 เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือวิธีอิเล็กทรอนิกส์ 1.2 เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล 1.3 เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการหรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี 1.4 เป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน หรือเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือให้เป็นไปตามมาตรการที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด

2. ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย เช่น การประชุม สัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่เกิน 200 คน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ

3. เงื่อนไขการเปิดดำเนินการ โดยให้สถานที่ กิจการ หรือการทำกิจกรรม ดังต่อไปนี้ เปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา และการจัดระบบและระเบียบต่างๆ ที่กำหนด ดังนี้ 3.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รถเข็น หาบเร่ และแผงลอย ให้เปิดบริการโดยจัดที่นั่งรับประทานอาหารได้ ระหว่างเวลา 06.00 น. ถึงเวลา 21.00 น. หลังเวลา 21.00 น. ให้จำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น ห้ามบริโภคสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ

3.2 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ 3.3 ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก/ค้าส่งชุมชน ตลาด ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ 3.4 ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฯ 3.5 สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู ต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันจำนวนมาก ในกรณีของสโมสร คลับเฮาส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าวให้ปฏิบัติตามข้อ 3.1

3.6 สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่โล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่หรือปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น เป็นส่วนบุคคลโดยต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันจำนวนมาก

4. มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ให้เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะ และอุปกรณ์ที่ใช้ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดระบบอื่นๆ ให้เป็นไปตามคำแนะนำ เงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีหรือทางราชการกำหนด เช่น การเข้าใช้บริการโดยนัดหรือแจ้งล่วงหน้า การไม่ให้ผู้ใช้บริการหลายคนรออยู่ในสถานที่เดียวกัน การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละคราว และการเข้าใช้บริการ ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจและให้คำแนะนำ หรือตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้เสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยว่าด้วยโรคติดต่อสั่งปิดสถานที่เฉพาะรายการ

5. ให้งดการปฏิบัติศาสนกิจและศาสนพิธีของทุกศาสนา ที่มีการรวมกลุ่มจำนวนตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ณ สถานที่ใดๆ เว้นแต่กรณีจำเป็นให้นายอำเภอพิจารณาอนุญาตเป็นกรณีไป

6. การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่กรณีเหตุจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

กรณีประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นและพำนักพักค้างคืนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในท้องที่ เพื่อรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันโรค (Home Quarantine) 

7. ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ยกเว้นการสัญจรเพื่อไปประกอบอาชีพตามปกติ 

8. ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณารูปแบบการปฏิบัติงาน ในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือการสลับวันหรือการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงาน เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทางซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

9. มาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้ปฏิบัติ ดังนี้ 9.1 เร่งรัดการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคอย่างเต็มขีดความสามารถ 9.2 ค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด 9.3 ควบคุมการเข้า-ออก ของยานพาหนะ และบุคคลคนไทย โดยมิให้กระทบต่อการค้าและการอุตสาหกรรมมากเกินความจำเป็น 9.4 งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากทุกรูปแบบ 9.5 ให้มีการ Work From Home อย่างเต็มขีดความสามารถ  

เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่ง ประกาศหรือคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ใช้คำสั่งนี้แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

และทันทีที่มีคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศออกมา พล.ต.ชิษณุพงศ์  รอดศิริ ผบ.มทบ.17 สั่งการให้ ร.ต.วิรวงค์ ปอยะสิงห์ หน.ชุด ชป.จว.กาญจนบุรี พร้อม จนท.ชป. 6 นาย สนธิกำลังกับทาง จนท.ตร.สภ.เมือง จนท.สาธารณสุขจังหวัด​ จนท.ฝ่ายปกครอง​ จนท.ตร.ท่องเที่ยว รวมตรวจประเมินสถานประกอบการ  ที่ได้รับการผ่อนคลายตามมาตรการควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVlD 19 และเน้นย้ำผู้ประกอบการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ของข้อกำหนดฯ ดังนี้

1. ร้าน​ เกาหลี คาราโอเกะ

2.​ ร้าน ไอโซ คาราโอเกะ

3.​ ร้าน​ ขวัญดาว คาราโอเกะ

4.​ ร้าน​ จุ่มโจร บุฟเฟ่ต์

5.​ ท่าน้ำหนองบัว

6.​ ร้าน เต็งหนึ่ง คาราโอเกะ

 และผลจากการตรวจสอบทางผู้ประกอบการได้มีมาตรการป้องกันตามข้อกำหนด มีการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน มีเจลล้างมือ และเว้นระยะห่าง มีการลงทะเบียนไทยชนะ โดยมี QR Code ติดไว้ให้ลูกค้า สแกนเช็คอิน และ​ เช็คเอ้าท์ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.