เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ปุ้ย พิมลวรรณ" เผยอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ กระทบรูปลักษณ์ รอวันกลับมาเป็นปกติ


12 ม.ค. 2564, 15:49



"ปุ้ย พิมลวรรณ" เผยอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ กระทบรูปลักษณ์ รอวันกลับมาเป็นปกติ




ปี 2020 ถือเป็นปีที่หนักหนาสาหัสของอดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ปุ้ย พิมลวรรณ หุ่นทองคำ เพราะนอกจากสถานการณ์วุ่นวายจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายนอกแล้ว เธอยังต้องต่อสู้กับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของตัวเอง จากโรคไทรอยด์เป็นพิษ อีกด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ร่างกายหลายอย่าง โดยล่าสุด เธอได้ออกมาบอกเล่าถึงอาการป่วยของตัวเอง เพื่อหวังให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง

" บันทึกปี 2020 เป็นปีที่เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากที่สุดในชีวิตเดือนละ 4 วัน(ไม่นับของคุณตา) วันเจาะเลือด และวันฟังผล สาเหตุจากไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งกว่าจะตรวจเจอก็ขึ้นตาขวาเป็นอันเรียบร้อย ทำให้มีอาการข้างเคียงเยอะแยะมากมายไปหมดหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งในต้องตรวจละเอียดถึงขั้นอัลตราซาวด์หัวใจ เดินสายพาน ตรวจกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ไม่ได้ตรวจเลือด วินิจฉัยตอนแรกว่าเป็นกรดไหลย้อนอยู่ตั้งเกือบ 5 เดือน metabolism ทำงานผิดปกติ คือเหงื่อออกมากกว่าคนปกติน่าจะ 3-4 เท่า ฝึกโยคะทีนึกว่ามีคนเอาน้ำใส่ถังมาราดตัว ระบบการเผาพลาญในร่างกายมีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายเดินขึ้นบันไดก็หอบ หูอื้อ พูดออกเสียงไม่ชัด ใจสั่น มือสั่น ทำให้ผอมลงเยอะมากซึ่งผอมเนี่ยเป็นสิ่งเดียวในอาการข้างเคียงที่ชอบนะ

แต่ผมร่วงหนักมาก อันนี้เครียดที่สุด เพราะต้องคอยระวังอย่างที่สุด ถึงกระนั้นก็ร่วงออกมาเป็นกำ ๆ คำว่ากำ ๆ นี้คือ กำหนามาก ๆ เก็บทิ้งเองทุกวัน ถามอาจารย์หมอตลอดเมื่อไหร่จะดีขึ้นคะ ๆ คันยิบ ๆ ทั้งตัวแบบนอนไม่ได้ต้องเอาหลังถูกกับที่นอน ทรมานหนักมากกว่าจะหลับลงในแต่ละคืนประจำเดือนมาไม่ปกติ หายไปหลายเดือนจนนึกว่าไม่มาแล้ว อ้าวยังมาบ้าง สรุปยังไม่วัยทอง



แต่อาการหนักกว่านะกว่าจะได้เจาะเลือดตรวจเจอ ภูมิคุ้มกันตัวเองก็สร้างบางสิ่งไว้หลังกระบอกตาขวา ทำให้ตาโปนออกมาจากปกติ 1  มิลลิเมตร จากการตรวจพบก็ทำให้เครียดแบบซึมไปเลยหลายวันเพราะยังต้องรับผิดชอบงานที่รับไว้ทั้งงานหน้าจอ ในขณะที่งานสกินแคร์ที่รับยังค้างไว้ ไหนจะงานที่โรงพยาบาลศัลยกรรมดับเบิ้ลยู คนจะเข้าใจรึเปล่าว่าป่วยเป็นไทรอยด์ขึ้นตา รึจะคิดว่าเกิดจากศัลยกรรม เดชะบุญบุญเก่ายังมี

ความที่ทำงานกับอาจารย์ศัลยแพทย์ อาจารย์พ่อ อาจารย์ศิระชัย จินดารักษ์ สังเกตุเห็นความผิดปกติทางกายภาพ ที่ต้องบอกอย่างนี้เพราะ จริง ๆ แล้วมีอาการตาบวมเห็นชัดตั้งแต่ ก่อน 2 พฤษภาคม แต่คิดว่าแพ้ ตัว cleansing อะไรประมาณนั้น อาจารย์พ่อบอก "เฮ้ยนี่มันตาไทรอยด์นี่หว่า" จับตรวจเลือดหาค่าไทรอยด์ทันที เทพจริง ๆ ผลออกมาโป๊ะเช๊ะ หนักเลยที่นี้ ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่เมตตา ทั้งที่ Polyplus, ที่ดับเบิ้ลยู และที่ Trylagina ยังเมตตาให้ทำงานที่รับผิดชอบต่อ ขอบคุณตึกช่วยแต่งตาให้เท่ากัน จิ๋วช่วยทำผมบางร่วงเกือบหมดหัวให้ดูเยอะ และสวยออกหน้าจอได้ตลอดเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้อาการ จากไทรอยด์ค่าเป็นพิษขีดสุด ตรวจรับยาทุกเดือนจากอาจารย์สิระ กอไพศาล ที่โรงพยาบาลรามา จนค่ากลับเป็นปกติภายใน 4 เดือน พอค่าไทรอยด์ดีเป็นปกติ ตาโปนก็เริ่มดี ทางเราก็ยังคงตื่นเช้าส่องกระจกตรวจอาการเองทุกวัน ในขณะที่อาการข้างเคียงอื่น ๆ เริ่มดีขึ้นตามลำดับ


กลับมาเรื่องตาโปน ทำให้เกิดความผิดปกติทางกายภาพ ตา 2 ข้างไม่เท่ากัน คือเหลือกไม่เท่ากันนั่นแหละ หลับตาข้างขวาไม่สนิท ตาแห้งต้องหยอดน้ำตาเทียม หลังเข้า CT scan ส่วนสมองคุณหมออ่านผลว่าร่างกายมันสร้างไขมันออกมาปกคลุมหลังกระบอกตา ทุกวันนี้ บางครั้งปวดหัวเป็นไมเกรน ปวดร้าวกระบอกตาจนถึงด้านหลังศรีษะซีกขวา แต่การเข้าเครื่อง CT scan มีข้อดีทำให้รู้ว่านอกจาก antibodies สร้างไขมันหลังกระบอกตาแล้วดันให้ตาดำโปนออกมาแล้ว นอกนั้นทุกอย่างออกมาดีมาก แก่ไปไม่เป็นโรคเกี่ยวกับสมองไม่เป็นอัลไซเมอร์แน่นอน และข้อดีในความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ยังมีเรื่องราวดีดีให้น่าจดจำ การไปโรงพยาบาลรามาบ่อย ๆ ทำให้ได้มีโอกาสทำบุญเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ได้ช้อปปิ้งของจากมูลนิธิรามา ได้พาคุณตาไปตรวจความดัน ใช้เวลากับพ่อมากขึ้น เดินวิ่งแบบไม่เคยทำมาก่อน ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ หัดปล่อยวาง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้อยู่บ้านใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ที่สำคัญได้นอนมากขึ้น มากขึ้นจริง ๆ ยังไงก็แล้วแต่เรื่องราวเหล่านี้กำลังจะผ่านไปพร้อมกับปี 2020 นี้แล้ว ยินดีที่เข้ามานะ ไม่เคยเสียใจเลย ขอบคุณที่ทำให้เข้มแข็งอีกระดับสุด ไม่มีอะไรทำร้ายหัวใจเราได้อีกแล้ว ขอต้อนรับเรื่องราวใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในปี 2021  

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้มีคนถามกันเยอะมาก เลยขอนำเอาบันทึกเรื่องไทรอยด์เป็นพิษขึ้นตามาแชร์ เผื่อสังเกตุอาการเบื้องต้นเจอก่อนจะได้รักษาอย่างตรงแนวทาง และเพื่อเป็นประโยชน์กับทุกคน ตอนนี้ค่าไทรอยด์กลับเป็นปกติได้ 1 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นเคสที่เร็วมากคุณหมอชม และอาการข้างเคียงแต่ละอย่างค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับจนจะเป็นปกติใน 3 เดือนข้างหน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.