เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ประธานประกอบพิธีถวายราชสักการะ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2564


17 ม.ค. 2564, 13:52



ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ประธานประกอบพิธีถวายราชสักการะ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2564




วันนี้ ( 16 มกราคม 2564 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกันประกอบพิธีถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมราชนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2564 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง ทั้งยังได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมา
 

 

พ่อขุนรามคำแหง หรือ พญาร่วง หรือ พระบาทกมรเตงอัญศรีรามราช เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เมื่อครั้งมีพระชนมายุ 19 พรรษา ได้เสด็จเข้าร่วมกองทัพกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ผู้เป็นพระบิดาไปป้องกันเมืองตาก และได้สู้รบกับขุนสามชนจนได้รับชัยชนะ และด้วยความกล้าหาญในครั้งนั้นทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระราชทานนามให้ว่า รามคำแหง ซึ่งหมายความว่า รามผู้กล้าหาญเข้มแข็งในการรบ ภายหลังเมื่อประมาณ พ.ศ. 1822 พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ขึ้นครองกรุงสุโขทัย โดยในรัชสมัยของพระองค์ถือเป็นช่วงสมัยที่กรุงสุโขทัยมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด เพราะตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สามารถค้าขายติดต่อกับบ้านเมืองต่าง ๆ ได้โดยรอบ และยังยอมเป็นเมืองผ่านทางการค้า มีการอนุญาตให้พ่อค้าเอาสินค้าไปค้าขายได้โดยไม่เก็บภาษี ทำให้มีคนมาค้าขายเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงรวบรวมแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกันจนเป็นราชอาณาจักรไทยที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นมา เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1826 ที่ถือเป็นต้นกำเนิดมรดกอันล้ำค่าที่คนไทยทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นเอกลักษณ์และความสละสลวย และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านในด้านต่าง ๆ ปวงชนชาวไทยจึงได้พร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แด่พระองค์ท่านเป็นองค์แรกของชาติไทย และได้มีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ไว้สักการะ ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดสุโขทัย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 สำนักงานสภาจังหวัดสุโขทัย ได้มีหนังสือเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการกำหนดวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราชขึ้น โดยถือเอาวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีและทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ต่อมาได้มีการพิจารณาทบทวนเรื่องการกำหนดวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความถูกต้องตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทางคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติจึงได้เสนอความคิดเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพบหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในวันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2376 จึงได้เสนอให้คณะรัฐมนตรี ลงมติอนุมัติการกำหนดวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ โดยให้วันที่ 17 มกราคมของทุกปี เป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

ภายหลังจากประกอบพิธีถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมราชนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2564 แล้ว นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้สมาชิกจิตอาสาพระราชทาน ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยการร่วมพลัง ทำความสะอาดโดยรอบบริเวณ และด้านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ ให้เกิดความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบและความปลอดภัยแก่บุคลากรอาจารย์ นักศึกษา และประชาชน ที่สัญจรผ่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ ต่อไป

 

 



 



 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.