ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย คณะบูรณาการความร่วมมือในการตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเล ลงพื้นที่ตรวจเรือประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณปากน้ำชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อติดตามการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานผิดกฎหมาย พร้อมแนะนำถึงมาตรการและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19  เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบกิจการประมงทะเลละเลยการปฏิบัติตามกฎหมาย ลดภาวการณ์เข้าตรวจซ้ำซ้อนของหน่วยงานราชการต่างๆ

 

 

สำหรับการลงพื้นที่ ปฏิบัติงานในครั้งนี้ ได้ทำการตรวจเรือประมง จำนวน 8 ลำ มีแรงงานประมงทั้งหมด 152 คน เป็นคนไทย 21 คน พม่า 130 คน กัมพูชา 1 คน เรือทุกลำผ่านการตรวจตามข้อปฏิบัติที่กฎหมายกำหนด อาทิ เช่น มี ทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ บัญชีรายชื่อและหนังสือคนประจำเรือ สมุดบันทึกการทำประมง หลักฐานการตรวจสุขภาพอนามัยและสวัสดิการการทำงาน การจ่ายค่าจ้าง เวลาพักต่อวันของคนงาน วันหยุดมีหรือไม่

 

นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ร่วมตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเลแบบบูรณาการ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะทำงาน ซึ่งในครั้งนี้ คณะบูรณาการความร่วมมือในการตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเล ลงพื้นที่ตรวจเรือประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณปากน้ำชุมพร เพื่อตรวจสอบการจ่ายค่าจ้าง
ด้วยวิธีสอบถามจากลูกจ้างโดยตรง ตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าจ้าง สัญญาการว่าจ้าง ทะเบียนรายชื่อลูกจ้าง โดยเป้าหมายหลักในการตรวจ คือเป็นการป้องปรามมิให้มีการปฏิบัติกับลูกจ้างในลักษณะการค้ามนุษย์การใช้แรงงานบังคับ และการใช้แรงงานเด็กที่ผิดกฎหมาย รวมถึงติดตามมาตรการและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด - 19 อีกด้วย