เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เมียกำนันปืนดุ ฝากคำขอโทษคนเจ็บ ส่งฝากขังวันนี้ค้านประกันตัว


9 มี.ค. 2564, 09:57



เมียกำนันปืนดุ ฝากคำขอโทษคนเจ็บ ส่งฝากขังวันนี้ค้านประกันตัว




ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณี นายไพศาล แสงนาราย อายุ 58 ปี กำนันตำบลนางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมาสุราก่อเหตุใช้อาวุธปืนยี่ห้อ CZ  ขนาด 9 มม.  ทะเบียน 54212729  กราดยิงในผับแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212(บ้านแพง-นครพนม) จำนวน 8 นัด เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บถึง 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายศาสตราวุธ เมาเกตุ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 5 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถูกยิงเข้าที่หลัง 1 นัด กระสุนฝังใน 2.นายสาธิต แสนโสภา อายุ 23 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ ถูกยิงที่ไหล่ซ้ายทะลุไหปลาร้า 1 นัด 3.นายสหัสวรรษ คำชนะ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 9 ต.นางัว อ.บ้านแพง เป็นมือกลอง ถูกยิงที่ข้อมือขวา และ 4.นายณัฐพล หล่อนลิ่ว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 7 ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร  เป็นนักร้องประจำร้าน  ถูกยิงบริเวณสะโพก 1 นัด

ส่วนผู้ก่อเหตุการ์ดในผับช่วยกันจับตัวส่ง ร.ต.อ.ยุทธพงษ์ สุราสา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.20 น. ของคืนวันที่ 7 มีนาคม 2564 ซึ่งต่อมานายไพศาลสร่างเมายอมรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงไม่พอใจเด็กรับรถมาไล่ให้ไปจอดรถที่อื่น โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะที่นายไพศาลชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้ารวม 8 นัด ระหว่างยิงนั้นบางครั้งมือก็ลดต่ำลง กระสุนจึงไปถูกคนในผับบาดเจ็บดังกล่าว ภายหลังนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ทราบรายงานจึงส่งให้พักราชการนายไพศาล พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจน จะได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย  ส่วนการดำเนินคดีอาญาให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ  ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

 ล่าสุด วันที่ 9  มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางกาใส แสงนาราย อายุ 53 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ขณะกำลังอยู่บ้านเลี้ยงหลาน เปิดเผยว่าปกติสามีเป็นคนขยันทำงานเลี้ยงครอบครัว และช่วยเหลือทำงานสังคมร่วมกับชาวบ้านมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับสภาพ ว่า อาจมาจากความเมา  ในเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำใจ พร้อมฝากคำขอโทษไปยังคนเจ็บโดยได้หารือกับลูกสาวพร้อมที่จะดูแลชดเชยเยียวยาผู้เสียหาย ส่วนเรื่องการประกันตัว จะยื่นขอตามขั้นตอน ซึ่งก็อยู่ในดุลยพินิจของศาลฯ 

ส่วนนายสังคม ปึกแก้ว อายุ  62  ปี สารวัตรกำนัน ต.นางัว เปิดเผยว่า ตนรู้จักสนิทสนมดูแลช่วยงานกับกำนันไพศาลมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีตำแหน่งอะไร  กำนันจะเป็นคนที่ขยัน ทำงานรับเหมาก่อสร้างบ้าน ทำสวนยาง และชอบช่วยเหลือสังคม ไม่มีปัญหากับใคร ให้ความร่วมมือทุกอย่าง และชาวบ้านเคารพนับถือมาตลอด



 กระทั่งเมื่อ 5 -6 ปีที่ผ่านมา ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านนางัว หมดวาระลง กำนันไพศาล จึงลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน และได้รับการเลือก ต่อมาได้เสนอชื่อคัดเลือกให้เป็นกำนันจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่บ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน  เพราะมีความเหมาะสม  ที่ผ่านมาทำงานร่วมกับชาวบ้านดี เป็นนักพัฒนา และไม่มีนิสัยนักเลงหรือกร่าง  จะมีบ้างหากดื่มสุรา สังสรรค์ แต่ปกติจะไม่หาเรื่องใครก่อน  ถ้าเมาเหล้าจะไม่ยอมคน แตกต่างจากไม่มีอาการเมา ตนทราบข่าวยังตกใจไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะรู้จักสนิทสนมกันมานาน เสียดายความเป็นนักพัฒนาช่วยเหลือสังคมมาตลอด เชื่อว่าต้นเหตุสำคัญมาจากเมาจนขาดสติ  เพราะส่วนหนึ่งกำนันไพศาล ถ้าเมาเหล้าจะเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่ชอบให้ใครมาสั่งการและทำให้รำคาญใจ

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดมาลัย บ้านนางัวเหนือ ซึ่งพบคนงานก่อสร้างกำลังปูหินแกรนิตศาลาการเปรียญอยู่ โดยมีลูกน้องสองคนชื่อลุงเสริฐกับนายสอน ให้รายละเอียดตรงกันว่า กำนันไพศาลจะช่วยงานสังคมทุกอย่างไม่เคยบิดพลิ้ว ศาลาหลังนี้ก็กำนันเป็นคนริเริ่ม ก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี ทุกครั้งจะลงมือทำด้วยตนเองเสมอ พอตกเย็นมีบ้างที่จะซื้อสุรามาดื่มแก้เมื่อย

นายสอนเผยว่าในเย็นของวันที่ 7 มีนาคม 2564 หลังเลิกงานก็ซื้อเหล้าขาวขวดเล็กมาดื่มกัน ไม่นานก็มีคนโทรศัพท์มาหากำนันไพศาลชวนไปกินต้มไก่ พวกตนก็กลับบ้านใครบ้านมัน ส่วนกำนันก็ไปดื่มต่อที่บ้านเพื่อน รุ่งเช้ามีคนมาบอกว่ากำนันเมาเหล้าไปยิงคนในผับ ทีแรกไม่เชื่อพอเห็นข่าวจึงรู้สึกตกใจ จากนี้ถ้าไม่มีหัวเรือใหญ่ศาลาการเปรียญคงเสร็จยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง จะนำนายไพศาล แสนนาราย กำนันปืนดุไปฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วันต่อศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหา 1.พยายามฆ่า 2.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯ และ 3.ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยคัดค้านการประกันตัว แต่ทางญาติก็เตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตามสิทธิเช่นเดียวกัน


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.