ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ มอบสิ่งของแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจ จุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 จังหวัดชุมพร ณ จุดตรวจหลักป้อมสันติสุข หมู่ที่ 11 ตำบลนาขา, จุดตรวจหลักบริเวณหน้าตลาดอวยชัย หมู่ที่ 4 ตำบลวังตะกอ, จุดตรวจหลักสามแยกทุ่งล่าง หมู่ที่ 6 ตำบลปากน้ำหลังสวน และจุดตรวจหลักบ้านควน ตำบลบ้านควน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร โดยได้เน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ทั้งด้านอำนวยความสะดวก และการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

 

 

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า การใช้รถใช้ถนนของพี่น้องประชาชน ในช่วงเส้นทางของจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นประตูสู่จังหวัดภาคใต้ ขณะนี้ปริมาณรถน้อยลง แต่ว่าการใช้ความเร็วกลับเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเห็นถนนว่าง มีรถน้อยก็ใช้ความเร็วกัน จึงเป็นอันตรายมาก ในขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่เริ่มมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงเทศกาล ที่อยู่ในเส้นทางสายรอง ก็จะมีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เชื่อมเส้นทางสายหลัก ดังนั้นทางร่วม ทางแยก ของเส้นทางสายหลักขณะนี้มีอันตราย ซึ่งจังหวัดได้มีการสั่งการให้ควบคุมความเร็ว ตรวจจับความเร็วเป็นระยะ พร้อมตรวจสอบความปลอดภัยบนทางร่วมทางแยก หากจุดใดไม่มีสัญญาณจราจรก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกทันที

ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 วงการแพร่ระบาดในวันนี้เริ่มมีการขยายเพิ่มขึ้น วงแรกที่มาจากสถานบริการใน กทม. เราปิดได้หมดแล้ว แต่ก็มีวงใหม่ขึ้นมาในวันนี้ ซึ่งเราจะได้ติดตามและปิดให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนการเดินทางมาที่ชุมพรต้องกักตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประวัติในการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงของบุคคลนั้น ถ้าเข้ามาในจังหวัดชุมพรทุกคนต้องลงทะเบียนผ่าน QR Code ด้วยระบบ Google forms “Save Chumphon” ไม่เว้นแม้แต่คนชุมพรที่ไปจังหวัดอื่นแล้วกลับมาก็ต้องลงทะเบียน ซึ่งเป็นคำสั่งหากใครไม่ปฏิบัติตามมีโทษทั้งทางอาญาและโทษปรับ หากกรองข้อมูลตามความเป็นจริงระบบก็จะแจ้งทันทีว่ามีความเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ ถ้าเสี่ยงสูงเจ้าหน้าที่จะโทรหาทันที เพื่อวางระบบในการควบคุมโรค และให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งขณะนี้มีคนเข้าระบบลงทะเบียนแล้ว 1 หมื่นกว่าคน และถูกสั่งกักตัวแล้วเกือบ 200 คน ดังนั้นจึงเน้นย้ำให้ทุกคนเข้าระบบ หากมีการตรวจพบเชื้อโรคขึ้นมา ก็จะตรวจย้อนหลังว่าได้ลงทะเบียน “Save Chumphon” ไว้หรือไม่ หากไม่ได้ลงจะถือว่าทำผิดกฎหมายและจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกคน