ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ยกระดับมาตรการควบคุมโรครวม 10 จังหวัด ที่มีการระบาดรุนแรง ครอบคลุมตั้งแต่การจำกัดการเดินทาง การออกนอกเคหสถาน มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ บช.น. ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมโรคสูงสุด โดยเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่  12 กรกฎาคม 2564  กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.(สบ8) ปฏิบัติราชการ บช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ได้ออกตรวจจุด ว.43 ป้องกันอาชญากรรม 
ในห้วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (โควิด-19) จำนวน 3 จุด อาทิ ใต้ BTS ราชเทวี ขาเข้า พื้นที่ สน.พญาไท,  แยกนานา พื้นที่ สน.ลุมพินี, ใต้ทางด่วนลาดพร้าว พื้นที่ สน.โชคชัย ซึ่งในจุดนี้ ได้มี พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร และคณะ ร่วมตรวจเยี่ยมด้วย

ซึ่งทุกจุดได้ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการตรวจยานพาหนะ บุคคล ที่ผ่านจุดตรวจ ซึ่งจะมีการใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบข้อมูลบุคคล และยานพาหนะประจำจุดตรวจ ตามนโยบาย ผบ.ตร. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอีกส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ ผบช.น. ได้กำชับผู้บังคับบัญชาในแต่ละจุดตรวจ ให้เตรียมความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เช่น หน้ากากอนามัย เฟสชิลด์ ถุงมือ เจลแอลกอฮอล์ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงโดยเร็ว