วันนี้ 30 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ประชาชนได้ทยอยเดินทางมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ที่บริเวณคลินิคหมอครอบครัวด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี กันเป็นจำนวนมาก โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ด่านมะขามเตี้ย และเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวก พร้อมให้คำแนะนำให้ประชาชนที่มาได้เข้าใจถึงขั้นตอน มีนายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย เดินทางมาพบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอบอุ่น

 

ทั้งนี้ นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ผอ.โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย เปิดเผยภายหลังว่า หลังจากที่ สบค.แพลนที่จะปลดการล็อกดาวน์ จึงต้องมีการระดมการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันให้กับพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งได้ระดมเจ้าหน้าที่ระดมฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันก่อนที่จะมีกรปลดการล็อกดาวน์

 

ซึ่งในช่วงแรกๆอาจจะทำให้ประชากรเดินทางเข้ามาฉีดกันหนาแน่นพอสมควร เนื่องมีผู้ที่ต้องมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่ได้นัดเอาไวอยู่แล้วรวมทั้งมีผู้ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนเข็มแรกรวมอยู่ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อต้องการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยทางบุคลากรทางการแพทย์ของเราได้มีแผนการว่าจะเร่งทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแบบไม่ต้องพักรับประทานอาหารโดยจะยืดเวลาออกไปถึง 3-4 ทุ่มจนกว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนครบทุกคนกันกันเลยทีเดียว

 

ส่วนจำนวนของผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนทั้งที่มาฉีดเข็มที่ 1 ยี่ฮ้อซิโนแวค และเข็มที่ 2 ยี่ห้อแอสตราเซเนกาในวันนี้ (30 ส.ค.)และพรุ่งนี้ (31 ส.ค.)ตามที่ได้นัดเอารวมกันอยู่ที่ประมาณ 2,000 คน โดยเราจะฉีดให้ครอบคลุมมากที่สุดอย่างน้อยวันละ 1,000 คน

 

สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วตั้งแต่มีการฉีดมานั้นถือว่าโชคดี เนื่องจากพบว่าไม่มีผลข้างเคียงอย่างรุนแรงจะมีบ้างก็เพียงแค่อาการมึนงง กลับบ้านไปอาจมีอาการไข้เมื่อได้ทานยาเข้าไปแล้วก็หายเองซึ่งขอประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนว่าการฉีดวัคซีนนั้นหากมีการติดเชื้อจะสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วแต่กลับติดเชื้อโควิด-19 จะทำให้ไม่ถึงกับเสียชีวิตและจะทำให้ผลการติดเชื้อจะมีอาการที่ไม่รุนแรงเพราะมันจะกลายเป็นการติดไข้หวัดธรรมดา เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนประชาชนทุกคนมาฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด

 

นายแพทย์ประหยัด ผอ.รพ.ด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ยภาพรวมทั้งหมดเริ่มดีขึ้น มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเป็นไปตามสถานการณ์ของทั่วทั้งประเทศ

 

ปัจจุบันมีผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จำนวน 240 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จำนวน 60 คน อยู่ที่โรงพยาบาลสนาม จำนวน 180 คน โดยผู้ป่วย จำนวน 180 คน เป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรือผู้ป่วยสีเขียว ซึ่งกระจายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามที่เป็นฮอตพิเทล ‘Hospitel’คือที่โรงแรมของสนามกอล์ฟเอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ต  และที่โรงแรมเดอะเลกาซี ริเวอร์แคว รีสอร์ท ซึ่งจำนวนผู้ป่วยทั้ง 240 คนนั้นถือว่าลดลงแล้ว ส่วนช่วงจำนวนที่พีคที่สุดคือช่วงที่มีจำนวนผู้ป่วยประมาณ 300 คน และขณะนี้พบว่ามีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ

 

แต่อย่างไรก็ตามหากดูจากยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ยอาจจะมียอดผู้ป่วยเป็นจำนวนมากก็จริง แต่ยอดผู้ป่วยส่วนใหญ่นั้น ถูกส่งมากจากพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี รวมทั้งผู้ป่วยที่ติดเชื้อในพื้นที่อำเภอท่าม่วง ซึ่งโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ยรับการรักษาผู้ป่วยทั้งหวัด แต่ภาพรวมของผู้ติดเชื้อที่เป็นชาวอำเภอด่านมะขามเตี้ยนั้นมีผู้ติดเชื้อน้อยมาก และประชาชนในพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้ชุมชนรวมทั้งตลาดนัดต่างๆค่อนข้างมีความปลอดภัยและพร้อมที่จะเปิดล็อกดาวน์ตามแผนการของรัฐบาลได้อย่างแน่นอน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.64 ข้อมูลวันที่ 29 ส.ค.64 ที่ผ่านมา สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีได้รายงาน ระบุว่า จังหวัดกาญจนบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครอบคุลมทั้ง 13 อำเภอ ดังนี้

 

อ.ด่านมะขามเตี้ย ติดเชื้อสะสม จำนวน 155 ราย เสียชีวิต จำนวน 2 ราย อ.ท่าม่วง ติดเชื้อ จำนวน 1,091 ราย เสียชีวิต จำนวน 4 ราย อ.ท่ามะกา ติดเชื้อ จำนวน 2,920 ราย เสียชีวิต จำนวน 21 ราย อ.เมืองกาญจนบุรี ติดเชื้อ จำนวน 2,388 ราย เสียชีวิต จำนวน 18 ราย

 

อ.พนมทวน ติดเชื้อ จำนวน 352 ราย เสียชีวิต จำนวน 3 ราย อ.ห้วยกระเจา ติดเชื้อ จำนวน 73 ราย เสียชีวิต 1 ราย อ.บ่อพลอย ติดเชื้อ จำนวน 284 ราย เสียชีวิต จำนวน 5 ราย อ.ไทรโยค ติดเชื้อ จำนวน 460 ราย เสียชีวิต จำนวน 8 ราย

 

อ.เลาขวัญ ติดเชื้อ จำนวน 124 ราย เสียชีวิต จำนวน 2 ราย อ.หนองปรือ ติดเชื้อ จำนวน 278 ราย เสียชีวิต จำนวน 3 ราย อ.ศรีสวัสดิ์ ติดเชื้อ จำนวน 96 ราย อ.ทองผาภูมิ ติดเชื้อ จำนวน 272 ราย เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และ อ.สังขละบุรี ติดเชื้อ จำนวน 682 ราย เสียชีวิต จำนวน 5 ราย

 

และที่โรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี หมู่ที่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี นายรังสิมันตุ์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี  น.พ.กฤษดา วุธยากร ผ็อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี พร้อมด้วย ทหาร หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย 134  อาสาสมัครรักษาดินแดน กองร้อย อ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ ร.พ.สังขละบุรี คณะครูโรงเรียนอนุบาลวังกะ และ จิตอาสาพระราชทาน ได้ร่วมกันติดตั้งเตียงสนาม ที่ได้รับมาจากนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี จำนวน 200 เตียง โดย พล.ตรี.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ได้ช่วยเหลือในการลำเลียงด้วยรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 3 คันมาส่งให้

 

ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 บ้านวังกะ ชุมชนหลังวัดสมเด็จ บ้านไหล่น้ำ ม 3 และ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นอกจากนั้นเริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่ ต.ปรังเผล และ ต.ไล่โว่ จนทำให้วันนี้สังขละบุรี มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 แล้ว  706 คน  ซึ่งคาดว่าในเดือน กันยายน นี้ น่าจะเพิ่มขึ้นอีก

 

ประกอบกับปัจจุบัน ศูนย์พักคอยของหมู่บ้าน ( C I ) ที่บริหารจัดการโดย สาธารณสุขร่วมกับ อบต.และผู้นำชุมชน กระจายอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ทั้งใกล้และไกล ทำให้ยากในการบริหารจัดการ ทั้งเรื่องการเดินทางของแพทย์ พยาบาล ซึ่งเริ่มขาดแคลนเนื่องจาก แพทย์ พยาบาล และ บุคลากร ของโรงพยาบาลสังขละบุรี เริ่มป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19  นอกจากนั้นยังมีเรื่องขยะติดเชื้อที่ตกค้างในพื้นที่ต่างๆ

 

จากการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ของคณะกรรมการโรคติดต่ออำเภอสังขละบุรีและนายจีระเกียรติ  ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้หาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการจัดตั้งศูนย์พักคอยกลางอำเภอสังขละบุรี ( C I ) กลาง โดยใช้อาคารอเนกประสงค์ ของโรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี และ ห้องประชุมโรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา ( แห่งละ 100 เตียง) ซึ่งอยู่ติดกัน และห่างจาก รพ.สังขละบุรี เพียง 600-700 เมตร ซึ่งจะสะดวก ต่อเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลสังขละบุรี ในการทำงาน

 

ทั้งนี้ปัจจุบัน โรงพยาบาลสังขละบุรี ต้องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิต-19 โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่ปอดติดเชื้อที่ต้องดูแลใกล้ชิด ที่พักรักษาตัวใน รพ.สังขละบุรี 22 ราย ผู้ติดเชื้อโควิต 19 ในโรงพยาบาลสนาม ( โรงพยาบาลคริสเตียนแม่น้ำแควน้อย สังขละบุรี) 250 ราย และ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อ (ที่ตรวจด้วยชุด ATK) อีกจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัวที่บ้าน ( home isolation) ที่กระจายอยูตามหมู่บ้านต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง 

 

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด - 19 ของอำเภอสังขละบุรี อยู่ที่ 706 คน รักษาตัว   429 คน รักษาหายแล้ว 268 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน ( พักการตรวจด้วยชุดATK) เสียชีวิตทั้งหมด 9 คน