กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกเนตรนารี สีเขียว ผูกผ้าพันคอสีแดง สวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวสะพายกระเป๋าสีขาว ใส่รองเท้าผ้าใบ เดินผ่านร้านค้าในหมู่บ้าน แล้วเดินลงไปในซอย เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาทีคนร้ายก็วิ่งกลับมาโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้า แม้แต่ชิ้นเดียวและยังมีผู้ชาย 2 คนวิ่งและเดินตามหลังคนร้ายมา โดยคนร้ายได้วิ่งหลบเข้าไปข้างบ้าน ของชาวบ้านละแวกนั้นโดยกล้องไม่สามารถบันทึกภาพได้ ขณะหลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 นของวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา

 

 

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่เลขที่ 16/1 หมู่ 12 ตำบลคลองตะเคียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ไปพบกับนางหะรีฟ๊ะ ชีวิตไทย อายุ 62 ปี  เจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ที่บ้านได้มีคนร้ายเป็นชาย เข้ามางัดประตูหลังบ้าน เดินขึ้นมาบนบ้านแล้วถือไฟฉายส่องช่องรูใต้ประตูห้องนอน แล้วเปิดประตูเปิดมุ้งเข้ามาในห้อง ตนตื่นขึ้นมาพอดี แล้วคนร้ายก็พูดออกมาว่าขอนอนด้วย ตนก็เข้าใจว่าเป็นลูกชาย แต่ก็แปลกใจว่าทำไมถึงมาขอนอนด้วย จากนั้นคนร้ายก็ดึงผ้าห่มที่ตนห่มอยู่เอาไปห่ม และยังพูดว่าขอกอดหน่อย ตนก็แปลกใจ ว่าทำไม คนที่เข้ามานอนตัวใหญ่จังและหายใจแรง จึงได้เอามือไปโดนตัวคนร้ายและพบว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ตนเองรีบลุกออกจากมุ้งมาเปิดไฟ ก็แทบช๊อกเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้มานอนอยู่ในมุ้ง  จึงรีบออกจากห้องแล้ว มาเคาะประตูห้องลูกชายที่นอนอยู่ข้างๆและก็ถามว่าได้ให้เพื่อนมานอนที่บ้านด้วยไหมแต่ลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ให้ใครมานอน จึงรีบลุกออกมาพร้อมตะโกนบอกสามีที่อยู่ข้างบนให้ลงมาช่วย เป็นจังหวะเดียวคนร้ายก็รีบห้องจากห้องแล้วหนีออกทางประตูหลังบ้าน สามีและลูกชายพยามจับตัวแต่คนร้ายขัดขืนจนประตูบ้านพัง วิ่งหนีออกจากบ้านไป แต่ก็พยายามตามไล่จับคนร้ายวิ่งหนีออกไปยังปากซอย หลบหนีเข้าไปข้างบ้านของชาวบ้าน แล้วหายไปในความมืดโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว   และคนร้ายยัง ทิ้งเสื้อผ้าที่สวมใส่มาถอดไว้ตรงข้างเตียงในห้องและยังพบกระเป๋าของคนร้าย และมีดที่คนหลายพกติดตัวมาวางอยู่บนโต๊ะ หน้าประตูหลังบ้านจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบ และมาเก็บของกลางที่คนร้ายทิ้งไว้เก็บไว้เป็นหลักฐาน