เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ มอบ "อาคม" ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี -ศรีสะเกษ ติดตามผลการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการ หลังขอความร่วมมือ กรุงไทย-ออมสิน-ธ.ก.ส.


11 มี.ค. 2566, 13:28



นายกฯ มอบ "อาคม" ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี -ศรีสะเกษ ติดตามผลการยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการ หลังขอความร่วมมือ กรุงไทย-ออมสิน-ธ.ก.ส.




วันนี้ (11 มี.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการยืนยันตัวตนร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่  พร้อมขอความร่วมมือธนาคาร 3 แห่งได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศพิจารณาเปิดบริการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้ประชาชนที่คุณสมบัติผ่านแล้วสามารถดำเนินการยืนยันตัวตน ได้ทัน และเริ่มใช้จ่ายตามโครงการได้ตั้งแต่วันที่  1 เม.ย. 66 เป็นต้นไป



พร้อมกับมอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และจ.ศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค. 66 เพื่อติดตามการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว ซึ่งในวันที่ 11 มี.ค. นายอาคมได้ติดตามการให้บริการยืนยันตัวตนในช่วงวันหยุดของธนาคารของรัฐใน อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภอกันทรารมย์  จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งการดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อย ธนาคารแต่ละแห่งมีการจัดให้บัตรคิวและสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้ทั้งการยืนยันตัวตน ผูกพร้อมเพย์โดยใช้บัตรประชาชนกับบัญชีเงินฝาก ได้เบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว


นายอาคม กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษว่า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบล่าสุดนี้มีผู้ผ่านคุณสมบัติและต้องดำเนินการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ออมสิน และธ.ก.ส. ทั้งสิ้น 14.6 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมีประชาชนดำเนินการยืนยันตัวตนเฉลี่ยวันละ 9 แสนคน ซึ่งมั่นใจว่าการที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งได้เปิดให้บริการเสริมในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ด้วยนี้จะช่วยให้ประชาชนที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมดสามารถยืนยันตัวตนได้ทันภายในเดือนมี.ค.นี้ และย้ำถึงผู้ป่วยติดเตียงที่ร่วมโครงการ สามารถมอบอำนาจให้ลูกหลานหรือญาติให้ไปดำเนินการยืนยันตัวตนแทนได้

นอกจากนี้ รมว.คลัง ยังฝากเตือนถึงประชาชนผู้ร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนว่าให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่อาจอาศัยช่วงเวลาที่ประชาชนยืนยันตัวตนตามโครงการมาหลอกลวงด้วยวิธีต่างๆ  อย่าหลงเชื่อผู้ที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์และให้ดำเนินการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะโอนเงินออกจากบัญชี หากมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับโครงการให้ติดต่อธนาคารทั้ง 3 แห่งดังกล่าว และระมัดระวังอย่าให้ใครนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดที่ใช้สำหรับใช้จ่ายตามโครงการนี้ไปใช้โดยพลการ






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.