วันนี้ 02 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว onb NEWS รายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีว่า เกิดเหตุบ้านโบราณพังถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน เหตุเกิดบริเวณบ้านโบราณริมถนนปากแพรก ย่านตลาดเก่าเมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนโบราณแบบชั้นครึ่ง พังถล่มลงมาเหลือเพียงกำแพง 2 ด้าน ภายในบ้านพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษปูนกระแทกใส่ จนมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดต่อไป

 

นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์ซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ริมถนนได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกเศษอิฐเศษปูนของบ้านที่พังถล่ม หล่นลงมาทับได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน หนึ่งในเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายเล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่ใกล้กับบ้านหลังที่เกิดเหตุ จู่ๆก็เห็นเศษอิฐปูนพังถล่มลงมา แม้จะพยายามถอยรถหนีแต่ก็ไม่ทันทำให้รถถูกเศษอิฐเศษปูนทับได้รับความเสียหาย

 

ขณะที่ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงบ้านโบราณหลังดังกล่าว ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวมีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี แต่ถูกทิ้งร้างเป็นบ้านโบราณในสภาพชำรุดทรุดโทรมมานานมากกว่า 30 ปีแล้ว แม้จะเคยมีผู้เข้าไปขอซื้อจากเจ้าของบ้านเพื่อจะนำไปบูรณะแต่เจ้าของบ้านก็ไม่ยอมขาย ปล่อยให้บ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรม จนในที่สุดก็เกิดพังถล่มลงมาในวันนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมานาน เมื่อหญิงผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เข้าไปเดินเก็บของเก่าภายในบ้าน อาจจะไปก่อให้เกิดแรงกระแทกส่งผลกระทบต่อโครงสร้างที่ค่อนข้างผุพัง ทำให้โครงสร้างของบ้านพังถล่มลงมาดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปสืบค้นข้อมูลของบ้านโบราณหลังนี้ พบว่าบ้านหลังนี้ชื่อว่าบ้านชิ้นปิ่นเกลียว เป็นบ้านของชาวญวนที่มาอาศัยอยู่ย่านถนนปากแพรก ก่อสร้างมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2418 ปัจจุบันมีอายุมากถึง 148 ปี ที่ผ่านมา มีภาคเอกชนรวมถึงหน่วยงานในพื้นที่พยายามจะเข้าไปปรับปรุงบ้านหลังดังกล่าวแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน ทำให้ต้องถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมจนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นในวันนี้