โดยนางโสภา เล่าว่า ตนเองเริ่มปลูกผักเชียงดาดังกล่าวเมื่อปี 2559 และปัจจุบันปัจจุบันตนเอง ได้ทำการปลูกผักเชียงดาดังกล่าว ประมาณ 1,000 ต้นโดยที่มานั้นหลังจากที่ใกล้ปลดเกษียรอายุราชการ ตนเองมีที่ดินซึ่งเป็นสวนอยู่บริเวณนี้ คิดว่าจะนำสมุนไพรมาทำการปลูกแต่พอศึกษาแล้วก็คิดว่าผักเชียงดาน่าจะเป็นพืชที่สามารถตอบความต้องการของตนเองได้ เพราะเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมานั้นแม่ได้มีการปลูกไว้ริมรั้วข้างบ้านและหากจะนำมาปรุงอาหารก็จะต้องมีจำนวนเยอะขึ้น เลยทำการนำมาปลูกโดยเริ่มต้นนำมาปลูกที่ 70 ต้น เพื่อไว้บริโภคในครัวเรือนและแจกจ่ายให้กับเพื่อนฝูง แต่ต่อมาเพื่อนฝูงเลยแนะนำให้นำออกจำหน่าย จึงได้ทำการนำไปจำหน่าย ซึ่งสามารถจำหน่ายได้เป็นอย่างดีและต่อมาผู้ที่รับซื้อผักเชียงดาของเราไปจำหน่าย ก็ให้เราขยายการปลูกและจะรับซื้อ จึงได้ทำการปลูกเพิ่มขึ้นรวมแล้วปัจจุบันกว่า 1,000 ต้น ซึ่งในแต่ละวันก็จะทำการเด็ดยอดอ่อนออกจำหน่าย ทั้งในเรื่องของการส่งทางออนไลน์และส่งให้กับร้านอาหารในพื้นที่ รวมทั้งตลาดต่างๆเฉลี่ยแล้วจะเก็บผลผลิตได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 กิโลกรัม โดยจะจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 100 บาท พอต่อมาก็ได้รับคำแนะนำจากน้องชายที่บอกว่าใบของผักเชียงดา สามารถนำมาแปลรูปได้โดยเฉพาะชาผักเชียงดา ตนเองจึงได้นำมาแปรรูปออกจำหน่ายโดยจะทำในลักษณะที่แพ็คใส่ซอง ที่สามารถชงดื่มได้เลย โดยจะจำหน่ายห่อละ 80 บาท และหากลูกค้าต้องการที่จะซื้อเป็นกิโลกรัมก็จะจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 1200 บาทถึง 1300 บาท ซึ่งปัจจุบันก็มีลูกค้ามาสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถผลิตได้ทันกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นก็ยังมีการเพาะต้นพันธ์ออกจำหน่าย โดยจะจำหน่ายที่ราคาต้นขนาด 30 เซนติเมตรอยู่ที่ 25 บาท ซึ่งสามารถจำหน่ายและสร้างรายได้ให้กับตนเองเป็นอย่างดี โดยเฉลี่ยแล้วมากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน

สัมภาษณ์... นางโสภา สุขแสงโชติ อายุ 61 ปีบ้านเลขที่ 215 หมู่ 2 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา หมายเลขโทรศัพท์ 081-7834428

สำหรับการปลูกผักเชียงดา ดังกล่าวนั้นตนเองจะใช้วิธีการทางธรรมชาติในการปลูกโดยทุกอย่างจะไร้สารเคมี เนื่องจากอดีตตนเองนั้นเคยเป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการเกษตรเก่า จึงได้ทำการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและปลอดสารเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานอย่างสบายใจ